Would you like to make this site your homepage? It's fast and easy...
Yes, Please make this my home page!
=
ชื่อสามัญ
ชื่อวิทยาศาสตร์
ตระกูล
ถิ่นกำเนิด
ลักษณะทั่วไป
การเป็นมงคล
ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก
การปลูก
Orang jessamine
Muraya
paniculata.
PUTACEAE
-
แก้วเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลางลำต้นมีความสูงประมาณ5-10
เมตรเปลือกลำต้นสีขาวปนเทาลำต้นแตกเป็น
สะเก็ดเป็นร่องตามยาวการแตกกิ่งก้านของทรงพุ่มไม่ค่อยเป็นระเบียบใบออกเป็นช่อเป็นแผงออกใบเรียงสลับกันช่อหนึ่งประ
กอบด้วยใบย่อยประมาณ
4-8
ใบใบเป็นมันสีเขียวเข้มขยี้ดูจะมีกลิ่นฉุนแรงขอบใบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อยขนาดของใบกว้าง
ประมาณ
2 - 4 เซนติเมตร ยาวประมาณ3-6
เซนติเมตรออกดอกเป็นช่อใหญ่ช่อสั้นออกตามปลายกิ่งหรือยอดช่อหนึ่งมีดอกประ
มาณ 5
- 10 ดอก แต่ละดอกมีกลีบดอก 5 กลีบ ดอกสีขาว กลิ่นหอม ดอกบานเต็มที่กว้างประมาณ 2 -
3 เซนติเมตร ผลรูปไข่ รี
ปลายทู่ มีสีส้ม ภายในมีเมล็ด 1 - 2
เมล็ด
คนไทยโบราณเชื่ว่า
บ้านใดปลูกต้นแก้วไว้ประจำบ้านจะทำให้คนในบ้านมีความดี มีคุณค่าสูง เพราะคำว่า แก้ว
นั้นหมายถึง
สิงที่ดีมีค่าสูงเป็นที่นับถือบูชาของบุคคลทั่วไปซึ่งโบราณได้เปรีบเทียบของที่มีค่าสูงนี้เสมือนดั่งดวงแก้วนอกจากนี้คนโบราณยัง
มีความเชื่ออีกว่า
บ้านใดปลูกต้นแก้วไว้ประจำบ้านจะทำให้เป็นคนที่มีจิตใยบริสุทธิ์ มีความเบิกบาน
เพราะแก้วคือความใสสะ
อาดความสดใสนอกจากนี้ดอกแก้วยังมีสีขาวสะอาดสดใสมีกลิ่นหอมนวลไปไกลและยังนำดอกแก้วไปใช้ในพิธีบูชาพระในพิธี
ทางศาสนาได้เป็นสิริมงคลยิ่งอีกด้วย
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย
ควรปลูกต้นแก้วไว้ทางทิศตะวันออก ผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธ
เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เอาประโยชน์ทั่วไปทางดอกให้ปลูกในวันพุธ
การปลูกแบ่งเป็น 2 วิธี
1.
การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน
คนไทยโบราณนิยมปลูกไว้เพื่อเป็นแนวรั้วบ้าน ขนาดหลุมปลูก
30
x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2 ผสมดินปลูก
การปลูกแบบนี้สามารถปลูกเป็นกลุ่ม
หรือเป็นแถวก็ได้และสามารถตัดแต่งบังคับทรงพุ่มได้ตามความต้องการของผู้ปลูก
2.
การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายนอกอาคาร ควรใช้กระถางทรงสูงขนาด 12 - 16 นิ้ว
ใช้ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน
อัตรา 1 : 1
ผสมดินปลูก และควรเปลี่ยนกระถาง 1 - 2 ปี/ ครั้ง
หรือตามความเหมาะสมของการเจริญเติบโตของทรงพุ่ม
เพราะการขยายตัวของรากแน่นเกินไปและเพื่อเปลี่ยนดินปลูกใหม่ทดแทนดินปลูกเดิมที่เสื่อมสภาพไป
แสง ต้องการแสงแดดจัด
หรือกลางแจ้ง
น้ำ
ต้องการน้ำปริมาณปานกลาง
ควรให้น้ำ 3 - 5 วัน /
ครั้ง
ดิน
ดินร่วนซุย
ดินร่วนทราย
ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
อัตรา 1 - 2 กิโลกรัม/ต้น ใส่ปีละ 4 - 6 ครั้ง หรือใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ สูตร
15-15-15
อัตรา
200- 300 กรัม/ต้น ใส่ปีละ 4 - 6 ครั้ง
การขยายพันธ์
โดยการเพาะเมล็ดและการตอน
โรคและแมลง
ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคและแมลง
เพราะเป็นไม้ที่มึความทนทานต่อสภาพธรรมชาติพอสมควร
การดูแลรักษา