Would you like to make this site your homepage? It's fast and easy...
Yes, Please make this my home page!
=
ชื่อสามัญ
ชื่อวิทยาศาสตร์
ตระกูล
ลักษณะทั่วไป
การเป็นมงคล
ตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูก
การปลูก
การปลูกมี 2 วิธี
Sambac
Jasminum sambac. ,
Jusminum adenophyllum.
OLEACEAE
ชนิดของมะลิที่นิยมปลูกเป็นไม้มงคล
1. มะลิซ้อน (Grand Duke of
Tuscany)
2. มะลิวัลย์ (Angel-hair jasmine)
3. มะลิฉัตร (Arabian
jasmine)
4. มะลิพวง (Angelwing jasmine)
5. พุทธชาติ (Star
jasmine)
มะลิเป็นพรรณไม้ยืนต้น
และเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก จนถึงขนาดกลางบางชนิดก็มีลำต้นแบบเถาเลื้อย
ลำต้นมีความสูงประมาณ
1-3 เมตร ผิวเปลือกลำต้นสีขาวมีสะเก็ดรอยแตกเล็กน้อย
ลำต้นเล็กกลมแตกกิ่งก้านสาขาไปรอบ ๆ ลำต้น ใบเป็นใบเดียว
แตกใบเรียงกันเป็นคู่ ๆ
ตามก้านและกิ่งลักษณะของใบมนป้อม โคนใบสอบเรียว ปลายใบแหลม
ขอบใบเรียบเป็นมันสีเขียว
เข้ม ขนาดใบกว้างประมาณ 2-3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 3-5
เซนติเมตร ออกดอกเป็นช่อ ออกตามส่วนยอดหรือตามง่ามใบ
ดอกเล็กสีขาวมีกลีบดอกประมาณ 6-8 กลีบ
เรียงกันเป็นวงกลมหรือซ้อนกันเป็นชั้นแล้วแต่ชนิดพันธุ์
ขนาดดอกบานเต็มที่ประ
มาณ 2-3
เซนติเมตรผลเป็นรูปกลมรีเล็กเมื่อสุกจะมีสีดำภายในมีเมล็ดอยู่1เมล็ดนอกจากนี้ลักษณะของลำต้นและดอกแตกต่าง
กันไปตามชนิดพันธุ์
คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นมะลิไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดความรักความคิดถึงแก่บุคคลทั่วไปเพราะดอกมะลิเป็นดอก
ไม้ประจำวันแม่แห่งชาติซึ่งเป็นสัญลักณณ์แสดงถึงความรักของลูกต่อแม่และผู้ที่มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณนอกจากนี้คนไทย
โบราณยังเชื่ออีกว่า
บ้านใดปลูกต้นมะลิไว้ประจำบ้าน จะทำให้คนในบ้านมีความบริสุทธิ์
เพราะดอกมะลิมีสีขาวบริสุทธิ์ ขาวสะอาด
ซึ่งคนไทยนิยมใช้เป็นเครื่องสักการะบูชาพระ
เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัยควรปลูกต้นมะลิไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธเพราะโบราณเชื่อ
ว่าการปลูกต้นไม้เพื่อเอาประโยชน์ทั่วไปทางดอกให้ปลูกในวันพุธถ้าจะให้เป็นสิริมงคลยิ่งขึ้นนั้นผู้ปลูกควรเป็นสภาพสตรีที่สูง
อาจุ
เพราะเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบสูงและยังเป็นผู้ที่ประกอบคุณงามความดี
เป็นที่ยอมรับนับถือของบุคคลทั้วไป
การดูแลรักษา
1.
การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายนอกอาคารบ้านเรือน ควรใช้กระถางทรงสูง ขนาด 8-14 นิ้ว
ใช้ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก :
ดินร่วน อัตรา 1: 1 :1
ผสมดินปลูกควรเปลี่ยนกระถางปีละครั้งเพราะการขยายตัวของรากแน่นเกินไปและเพื่อเปลี่ยน
ดินปลูกใหม่
ทดแทนดินปลูกเดิมที่เสื่อมสภาพไป
2.
การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน โบราณนิยมปลูกบริเวณทางเข้าหน้าบ้าน
เพื่อเป็นเสน่ห์แก่บ้าน
ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x 30 เซนติเมตร
ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1: 1 ผสมดินปลูก
แสง ต้องการแสงแดดจัด
หรือกลางแจ้ง
น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง
ควรให้น้ำ 3-5
วัน/ครั้ง
ดิน ชอบดินร่วนซุย
มีความชุ่มชื้นปานกลาง
ระบายน้ำได้ดี
ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
อัตรา 0.5-1 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 5-6 ครั้ง หรือใช้ปุ๋ยเคมีสูตร
15-15-15
อัตรา
200-300 กรัม / ต้น ใส่ปีละ 4-6
ครั้ง
การขยายพันธ์
การปักชำ การตอนกิ่ง
การทาบกิ่ง การแยกกอ วิธีที่นิยมและได้ผลดี คือ การปักชำ การตอน
โรค
รากเน่า
(Sclerotium root rot)
แมลง
หนอนเจาะดอก
อาการ ใบเหลือง
เหี่ยว ต้นแห้งตาย โคนต้นมีเส้นใยสีขาว และดอกเป็นแผล เป็นรู
ทำให้ดอกเสียรูปทรง
และร่วง
ดอกเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ
การป้องกัน
ตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่ง
เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาศัยของหนอนตัวแก่
การกำจัด
ใช้ยาเมโธมิล
หรือ เมธามิโดฟอส
อัตราและคำแนะนำระบุไว้ตามฉลาก